Category Archives: รีวิวหนังผจญภัย

รีวิว Top Gun Maverick

รีวิว Top Gun Maverick

รีวิว Top Gun Maverick

รีวิวหนังมาใหม่ สวัสดีครับหนังเรื่องนี้เป็นหนังปี 2022 วันนี้แอดเลยอยากจะมารีวิวความรู้สึกหลังดูหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องปกติของฮอลลีวูดที่มักจะฟื้นคืนชีพ ที่ได้รับการันตีจากหลายๆสื่อ หลายๆสำนักว่าครบเครื่องครบอารม ต่อลมหายใจหนังดังยุคอดีต เสียงก่นด่า อย่างน้อยที่สุดหนังเรื่องนั้นก็ได้ทำหน้าที่ ไม่ว่าสุดท้ายผลลัพธ์จะเป็นการกลับมาที่ได้รับคำชื่นชม หรือ ไม่แอดก็ชอบเรื่องนี้มาก ๆ

รีวิว Top Gun Maverick

พาคนรุ่นเก๋าให้ย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่อยู่ในความทรงจำ ขณะที่คนยุคปัจจุบันก็ได้โอกาสในการเสพความเป็นตำนาน.. ล่าสุดกับ Top Gun Maverick (ท็อปกัน: มาเวอริค) ก็คือ หนังภาคต่อของ Top Gun ( ท็อปกัน ฟ้าเหนือฟ้า ) ที่ผ่านกาลเวลากว่า 3 ทศวรรษ จนกลายเป็นตำนาน เช่นเดียวกับพระเอกของเรื่อง ทอม ครูซ เว็บดูหนัง

รีวิว Top Gun Maverick

รีวิวหนังมาใหม่Top Gun Maverick ( ท็อปกัน: มาเวอริค ) เล่าเรื่องราวของ พีท “มาเวอริค” มิทเชลล์ (ทอม ครูซ) นักบินระดับสูงของกองทัพเรือที่มุ่งมั่นกับการท้าทาย และ ยกระดับการบินมานานกว่า 30 ปี กระทั่งเขาได้รับหน้าที่สำคัญในการฝึกสอนหน่วย Top Gun ที่เต็มไปด้วยนักบินเลือดใหม่ชั้นยอด เพื่อคัดเลือกผู้ที่พร้อมที่สุดในการปฏิบัติภารกิจพิเศษที่มีเป้าหมายคือต้องสำเร็จเท่านั้น แต่โอกาสรอดชีวิตเป็นศูนย์! ภารกิจของครูฝึกที่น่าหนักใจนี้ ยิ่งหนักหนาขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อหนึ่งในนักบินคือ “รูสเตอร์” ( ไมล์ส เทลเลอร์ ) ลูกชายของเพื่อนรักที่เสียชีวิตไปแล้ว นั่นทำให้เขาต้องพยายามวางแผน และ ฝึกฝนเพื่อให้หน่วย Top Gun พร้อมทำภารกิจ และ รอดชีวิตมาให้ได้ เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจตลอดชีวิตการบินของเขา..

รีวิว Top Gun Maverick

เชื่อว่าหลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ น่าจะไม่เคยดู Top Gun ( ท็อปกัน ฟ้าเหนือฟ้า ) ในโรงภาพยนตร์ แต่ก็คงได้มีโอกาสดูผ่านจอทีวีไม่ก็จอคอมฯ เช่นเดียวกับผู้เขียน แต่ไม่รู้ว่าเพราะการดูผ่านจอคอมฯ หรือ วิธีการนำเสนอของหนังยุค 80 กันแน่

ที่ทำให้ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกชอบอะไรเป็นพิเศษกับหนังเรื่องนี้ แม้จะแอบทึ่งกับการถ่ายทำในยุคสมัยนั้น ที่นำเสนอภาพการบินบนน่านฟ้าที่ให้ความรู้สึกสมจริง และ ได้เห็นนักแสดงที่หลายคนกลายเป็นตำนานไปแล้วแสดงในหนังเรื่องนี้ก็ตามที

Top Gun Maverick ( ท็อปกัน: มาเวอริค ) ภาคต่อที่ครั้งนี้ได้โอกาสดูบนจอภาพยนตร์ IMAX กลับเป็นความสนุก และ บันเทิงไปกับแอ็กชันบินไล่ล่าที่เต็มไปด้วยความลุ้นระทึกของสถานการณ์ที่บีบคั้นกดดัน ผ่านการนำเสนอที่รวดเร็ว รุนแรง ด้วยเทคนิคถ่ายทำในยุคปัจจุบัน ให้ความรู้สึกราวกับเราเข้าไปนั่งอยู่ใน Cockpit หรือ ห้องคนขับเครื่องบินก็ไม่ปาน ยิ่งได้ระบบเสียงรอบทิศทาง จนรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของเบาะนั่งขณะที่ดู ยิ่งเพิ่มความอินไปกับฉากตรงหน้ามากยิ่งขึ้น

รีวิว Top Gun Maverick

ลงท้ายกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอีกครั้งในการดูหนังบนจอภาพยนตร์ ที่การดูบนจอทีวี หรือ จอคอมฯ ไม่มีทางมอบความรู้สึกนี้ให้ได้แน่ ๆ ตอกย้ำว่าหนังบางเรื่องมันถูกสร้างขึ้นมาให้เหมาะกับดูบนจอภาพยนตร์เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดหากใครไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน ไม่มีความจำเป็นต้องดูภาคต้นเพื่อเตรียมตัวแต่อย่างใด หนังให้เวลามากพอที่จะปูเรื่องราวให้คนดูได้เข้าใจที่มาที่ไป ว่าทำไมมาเวอริคถึงเป็นตำนาน ความบาดหมางกับรูสเตอร์ ที่สถานะไม่ต่างจากพ่อ-ลูก

ที่มีปัญหาผิดใจกัน อีกทั้งยังตั้งคำถามสำคัญ ว่ายุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดรวดเร็วขนาดนี้ นักบินแบบมาเวอริค ยังจำเป็นอีก หรือ ไม่? ซึ่งตรงนี้คือจุดสำคัญที่ช่วยผลักดันเรื่องราว เป็นการท้าทายของยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงที่มาเวอริคต้องเผชิญหน้าการบ่มเพาะผ่านกาลเวลา ทำให้ทุกอย่างใน Top Gun ที่กำกับโดย โทนี สก็อตต์ กลายเป็นตำนาน เป็นเส้นทางให้ Top Gun Maverick ที่กำกับโดย โจเซฟ โคซินสกี้ ที่เคยผ่านงานกำกับอย่าง Tron: Legacy และ Oblivion

ได้เดินตาม ทั้งวิธีการนำเสนอ เพลง ฉากคลาสสิกอย่าง ฉากขี่มอเตอร์ไซค์ หรือ แม้กระทั่งฉากเล่นกีฬาที่ชายหาด ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นดั่ง Nostalgia ให้แฟนหนังยุค 80 ได้หวนคิดถึงช่วงเวลาเมื่อครั้งอดีตในทุกครั้งที่ได้ดูหนังของ ทอม ครูซเรามักจะอินไปกับการแอ็กชันของเขา แต่ครั้งนี้ด้วยฉากแอ็กชันที่เป็นการขับเครื่องบินรบ ทำให้เงื่อนไขทางแอ็กชันเปลี่ยนไป ทอม ครูซ ต้องถ่ายทอดฉากแอ็กชันผ่านทางแววตาเป็นสำคัญ ดูหนัง

จึงอย่าแปลกใจหากครั้งนี้เราจะอินไปกับการแสดงของเขา ซึ่งทีมเขียนบทที่ประกอบไปด้วย เออเรน ครูเกอร์, เอริค วอร์เรน ซิงเกอร์ และ คริสโตเฟอร์ แมคควอร์รี่ ( มือเขียนบทคู่บุญ ทอม ครูซ ) 

มีส่วนไม่น้อยเลยในการสร้างเรื่องราวภาคต่อ ที่ดูไม่ฝืน และ เข้มข้นในแบบที่ภาคต่อควรจะเป็น ที่ช่วยยกระดับฉากแอ็กชัน และ การแสดงที่เต็มไปด้วยดราม่าให้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และ งดงาม

บทสรุป Top Gun Maverick

รีวิวหนังมาใหม่ภาพรวมของ Top Gun Maverick ( ท็อปกัน: มาเวอริค ) ถือว่าน่าพอใจมาก ๆ เป็นหนังดูง่าย เข้าถึงง่าย โดยเฉพาะกับฉากแอ็กชันบนน่านฟ้าที่สมจริงและน่าตื่นตาตื่นใจ และเรื่องราวที่สานต่อได้อย่างมีเนื้อหนังไม่ตื้นเขิน

เชื่อว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งหนังภาคต่อที่ได้รับการยกย่องในอนาคต และ ที่บอกไปครับฉากแอคชั่นที่ถูกพัฒนา ขึ้นมาเพื่อให้ถูกจริตของคนรุ่นใหม่ อัดจังหวะที่มันตื่นเต้นมากขึ้น ตัดต่อฉึบฉับมากขึ้นโดยยังคงความงามแบบเวอร์ ๆ ของเครื่องบินรบขับไล่กันกลางเวหาแบบภาคแรกไว้ โดยภาคนี้ได้ไอเดียบ้าแต่โคตรสร้างสรรค์ของ เคลาดิโอ มิแรนดา ผู้กำกับภาพของหนัง ที่มัดกล้อง 6 ตัวไว้ในห้องนักบินที่ให้ภาพสุดตื่นตาตื่นใจยากจะหาหนังเรื่องไหนถ่ายทอดความตื่นเต้นของการบินขับไล่ได้เท่าหนังเรื่องนี้อีกแล้ว ที่สำคัญฉากขับเครื่องบินกลางเวหา

ป๋าครูซลงทุนแสดงเอง ขับเอง บินเอง แบบบินจริง ๆ นะ เพื่อความสมจริงที่สุดอีกต่างหาก และ ไม่ใช่แค่บู๊เพราะความดราม่า การสนทนาที่ต้องเคลียร์ปมในใจ ก็ใส่เข้ามาได้ดี และ มันดึงอารมณ์ของเราให้พักจากความตื่นเต้น เป็นความรู้สึกอึดอัด กระอั่กกระอ่วน (เพราะอินหนังนะ) ได้ดีจริง ๆ ครับ เอาเป็นว่า Top Gun : Maverick ครบเครื่องสำหรับหนังแอคชั่น “โคตรดี” สักเรื่องที่ควรค่าแก่การไปดู และ อย่างที่ผมบอกว่านี่คือหนังที่ดีที่สุดเรื่แงหนึ่งที่ได้ดูมาตั้งแต่เข้าปี 2022 นี้มาเลยครับ

เหนืออื่นใดที่น่ายกย่องเป็นพิเศษ คือ นักแสดงอย่าง ทอม ครูซ ที่ผ่านกาลเวลาไปกี่ทศวรรษ เขาก็ยังคงอยู่ตรงนี้ บนเส้นทางของนักแสดง อาชีพที่ยังผลิต และ ถ่ายทอดผลงานระดับสูงมาให้แฟน ๆ ได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง จะว่าไปเส้นทางการแสดงของทอม ครูซ ก็คล้ายกับเส้นทาง นักบินชั้นยอดของมาเวอริค วันหนึ่งก็คงถึงเวลา ที่รุ่นใหม่จะก้าวขึ้นมา ทาบรัศมี ไม่ก็ถึงวันที่พลังการแสดง ของเขาอ่อนลง และ นั่นคงเป็นสัญญาณที่บอกว่าถึงเวลาที่อาชีพการแสดงของทอม ครูซ ต้องแลนดิ้งลงจอดเสียที.. แต่หากใครที่ได้ดู Top Gun Maverick จบ เชื่อว่าก็คงรู้สึกเช่นเดียวกันกับผู้เขียนว่า “ใช่ วันนั้นสักวันคงมาถึง แต่..ไม่ใช่วันนี้” เว็บหนัง

รีวิว Jolt

รีวิว Jolt

รีวิว Jolt

 

รีวิวหนังมาใหม่ สวัสดีครับวันนี้ก็มาถึงอีกหนึ่งโปรแกรมหนังแอคชั่นสุดมันที่แอดอยากจะรีวิวเอามากๆ ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจไม่เบา มาลงคิวฉายส่งท้ายปีนี้ในบ้านเรา ก็คือ “Jolt” (สวยแรงสูง) กลิ่นอายความเป็นหนังนักฆ่าสาวสุดระห่ำลอยโชยมาแต่ไกลทีเดียว แต่เมื่อได้ลองมาสัมผัสและพิสูจน์ด้วยตาตัวเองแล้ว ก็พบว่านี่คือหนังที่จังหวะโบ๊ะบ๊ะ ดูเอามันส์ ด้วยไอเดียที่น่าสนใจ แม้จะยังไม่ได้กลมกล่อมรสชาติอร่อยขนาดนั้นก็ตาม เว็บดูหนัง

รีวิว Jolt

รีวิวหนังมาใหม่ Jolt สวยแรงสูง เป็นเรื่องราวของ ลินดี้ หญิงสาวที่เกิดและเติบโตมาด้วยความบกพร่องทางอารมณ์ที่ติดตัวมาตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้เธอกลายเป็นสาวอารมณ์ร้อนและพฤติกรรมรุนแรงแบบควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้ต้องใช้เสื้อกั๊กประจุไฟฟ้าช่วยยับยั้งอาการนี้ของเธอให้ทุเลาลง เพื่อจะได้ไม่ต้องมีใครเจ็บป่วยล้มตายเพราะเธอ แต่กระทั้งเมื่อเธอพบว่าคนรักของตัวเองถูกฆ่าตายอย่างเป็นปริศนา เธอจึงต้องออกโรงสืบเสาะหาต้นหาและใช้พลังความโกรธเดือดดาลของเธอมาเป็นเครื่องมือล้างแค้น

รีวิว Jolt

เราได้เห็น “เคต แบคคินเซล” กลับมารับบทสวยสังหารอะไรแบบนี้อีกครั้ง แม้ว่าจะไม่ใช่บทที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจอะไรเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าประทังความคิดถึงคาแรกเตอร์แบบนี้ของเธอได้อยู่เหมือนกัน นับตั้งแต่เรื่อง Underworld ที่สวยเท่ชะมัด แต่มาในเรื่องนี้ตามที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า เป็นหนังที่สอดแทรกจังหวะโบ๊ะบ๊ะที่อย่าถามหาสาระอะไรมาก อยากจะใส่อะไรก็ใส่ อยากจะโยนอะไรมาก็โยน กลายเป็นหนังประเภทผัดตามใจ ไม่ต้องแคร์แกนเรื่องอันน้อยนิดอะไรมาก

Jolt สวยแรงสูง น่าจะเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ ดูฆ่าเวลาได้ เพราะในท้ายที่สุดเมื่อหนังจบลงแล้ว ก็แทบจะไม่ได้มีอะไรให้น่าจดจำสักเท่าไหร่ แบบว่าดูผ่านแล้วก็ผ่านเลย เนื่องจากโครงเรื่องและบทหนังค่อนข้างอ่อนเป็นอย่างมาก ประเด็นและจุดหักมุมต่างๆ ซ้ำซากและไม่ได้รู้สึกเซอร์ไพรส์อะไร แนวทางการพัฒนาตัวละครและคาแรกเตอร์ต่างๆ ก็ยังไม่ดีพอ แม้แต่ตัวนางเอกของเรื่องก็ยังถ่ายทอดออกมาได้แบบแปลกๆ ชอบกล

ถึงแม้ว่าบทหนังจะค่อนข้างเห่ยและเชยอยู่ไม่น้อย แต่ก็ต้องขอบคุณพลังจากทีมนักแสดงในหนังเรื่องนี้ ที่ต้องร้องโอ้โห้…ออกมาเบาๆ เพราะเป็นหนังแอคชั่นที่พยายามจะทำออกมาให้ดูเฟียรซ์และมาพร้อมกับดาราตัวเป้งๆ ไม่ว่าจะเป็น “สแตนลีย์ ทุชชี่”, “ไจ คอร์ตนีย์”, “บ็อบบี้ แคนนาวาลล์” หรือ “ซูซาน ซาแรนดอน” ที่ยังแอบรู้สึกตกใจอยู่เหมือนกันว่าไปหว่านล้อมมาเล่นได้ยังไง ดูหนัง

รีวิว Jolt

จะสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่า Jolt มีความพยายามที่อยากจะเดินตามรอยหนังแนวนี้อย่าง John Wick หรือ Atomic Blonde แต่ปรับโหมดจากความขึงขังจริงจังมาใส่ความโบ๊ะบ๊ะเข้าไปแทน จึงทำให้ภาพรวมของหนังที่ออกมานั้น ดูความพยายามเกินไปทั้งเรื่อง การเล่าเรื่องที่เรื่อยๆ แสนจะธรรมดา กับการตัดต่อยังไม่ค่อยราบรื่นไปตลอดทั้งเรื่อง บทหนังที่ยังมีรสชาติประหลาดๆ แทรกเข้ามาบ้าง และไม่มีอะไรที่เดาได้ยากเลยในเรื่องนี้

โดยภาพรวมแล้ว Jolt สวยแรงสูง ก็ยังคงเป็นหนังที่ดูได้สนุกและเพลินตามท้องเรื่อง เพียงแค่หนังยังดูพยายามเกินเหตุ จะตลกก็ยังไปไม่สุด จะบู๊จริงจังก็ทำได้ไม่ถึง เป็นหนังที่ยังติดแหง็กอยู่ตรงกลางระหว่างทาง สับสนว่าจะเดินไปทางไหนดี โครงเรื่องและเส้นเรื่องที่ค่อนข้างบางเชียบ แทบจะไร้น้ำหนักกับความโบ๊ะบ๊ะคลั่งรักของตัวละครหลัก แต่ภายใต้ความเห่ยเหล่านี้ ก็ยังสามารถดำเนินเรื่องออกมาได้บันเทิงใจได้อยู่ในระดับนึง

รวมไฮไลท์ Jolt

รีวิวหนังมาใหม่ 1) อีกหนึ่งตัวแม่ของวงการ “เคท เบ็คคินเซล” ที่เคยประกาศศักดาความแซ่บสุดมันส์ให้ทั้งโลกต้องยอมเรียก #แม่ ในแฟรนไชส์สวยพันธุ์อสูร Underworld, ยอดหญิงสู่แวมไพร์ Van Helsing (2004), เมียปลอมล่าเด็ดผัว Total Recall (2012) และล่าสุดขอรีเทิร์นบทบาทแอ็กชั่นสตาร์ด้วย “Jolt สวยแรงสูง” บอกเลยไม่มีผิดหวัง เพราะแม่เคทใส่เต็มและสาดเสน่ห์พุ่งทะลุจอเต็มอัตราเพื่อแฟนๆ โดยเฉพาะ

2) ร่วมระห่ำเดือดสุดลูกไฟ ด้วยนักแสดงสมทบชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ไจ คอร์ตนี่ย์ (Terminator: Genisys), สแตนลีย์ ทุชชี (The Hunger Games), บ็อบบี้ แคนนาวาล (Spy)” และตัวแม่สาวสองสุดฮ็อตล้นคุณภาพ “ลาเวิร์น ค็อกซ์ (Promising Young Woman)”

3) สุดมันส์ยัดไอเดียเด็ด รับประกันความสดใหม่ของแอ็กชั่นไฟแรงสูงด้วยทีมผู้สร้าง Cloverfield (2008), Sin City: A Dame to Kill For (2014), Unhinged (2020) และแฟรนไชส์ The Expendables

4) เดบิวต์งานบทครั้งแรกก็ปังเลย “เดวิด วาสชา” จับความแค้นของผู้หญิงมาใส่ลูกเล่นแพรวพราวและอารมณ์ขันชั้นยอดที่เสียดสีกันไปมา จนทำให้ “Jolt สวยแรงสูง” มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ยอดเยี่ยมไม่เหมือนใคร สมค่าการรอคอยของคอหนังที่อยากสลัดภาพหนังแอ็กชั่นเดิมๆ เนี่ยแหละหนังที่คุณมองหา

5) ร่วมขบวนการความแรงแบบสุดเซอร์ไพรซ์ กับนักแสดงหญิงรุ่นใหญ่เจ้าของรางวัลออสการ์ “ซูซาน ซาแรนดอน” (Thelma & Louise, Enchanted, Cloud Atlas) ตบปากรับคำท้าในบทรับเชิญที่คนดูไม่มีวันคาดถึง

6) บทปัง ฉากเปรี้ยง ด้วยฝีมือสุดละเมียดจากผู้ออกแบบงานสร้างตัวท็อป “รัสเซลล์ เดอ โรซาริโอ” จากหนังแอ็กชั่นโคตรบ้าแห่งยุค Kick-Ass (2010), Kick-Ass 2 (2013) และ The Hitman’s Bodyguard (2017) รอดูเลย ความฉูดฉาด แสงสี นีออนสไตล์ ดีไซน์ไฟแรงสูง ตอบโจทย์ความเปรี้ยวฉบับแม่เคทไม่ให้ละสายตา

7) อย่าให้พวกฉันต้องลงมือ! “Jolt สวยแรงสูง” รวมพลังสุดยอดหญิง #3Queens ทั้งโปรดิวเซอร์หญิง ดาราหญิง ผู้กำกับหญิง จัดเต็มแอ็กชั่นสุดมันส์ไม่แพ้ผู้ชาย คอหนังรอฟินตาตั้งได้เลย

8) สวยสะมัดมันส์หยดติ่ง เพื่อให้ “Jolt สวยแรงสูง” เป็นสุดยอดหนังแอ็กชั่นแรงถึงใจผู้ชม งานนี้เลยต้องดึงตัว “เจมส์ โกรแกน” ผู้กำกับคิวบู๊รุ่นใหญ่ที่เคยฝากฝีมืออันโจษขานมาแล้วใน Avengers: Age of Ultron (2015), Angel Has Fallen (2019) และ Don’t Breathe 2 (2021) รับประกันแอ็กชั่นเด็ด ลีลาปัง แม่เคทสวย คนดูชอบ แน่นอนค่ะ!

9) แอ็กชั่นสะใจ! งานนี้รวมตัวสุดยอดสตั้นต์จากหนังดังฟอร์มฮิต The Bourne Ultimatum (2007), Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 2 (2011), Skyfall (2012), Fast & Furious 6 (2013) และ Hitman’s Wife’s Bodyguard (2021) ทุ่มสุดตัวเคียงข้าง “เคท เบ็คคินเซล” เล่นจริง เจ็บจริง ให้ทุกช็อตมันส์ที่สุดไม่ลดลิมิตสักฉากเดียว

10) แก่นเรื่องโดนใจแน่! เพราะเธอต้องควบคุมสิ่งดีและไม่ดีที่มีในตัว พร้อมพลิกความคลั่งแค้นให้เป็นสุดยอดขุมพลังแห่งหญิงที่ทุกคนต้องยอมสิโรราบ งานนี้ผู้ชมชาวหญิงอินจัดตั้งแต่ต้นยันจบแน่นอน เว็บหนัง

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Jolt สวยแรงสูง

ประเภท: แอคชั่น / ตลก
ผู้กำกับ: ทันย่า เว็กซ์เลอร์
นำแสดงโดย: เคต แบคคินเซล, สแตนลีย์ ทุชชี่, ไจ คอร์ตนีย์
ความยาว: 91 นาที
กำหนดฉายในไทย: 30 ธันวาคม 2021 (ในโรงภาพยนตร์)

 

รีวิว Shark Bait

รีวิว Shark Bait

รีวิว Shark Bait

รีวิวหนังมาใหม่ เปลี่ยนทะเลให้กลายเป็นสนามล่า ห้าโคตรคนบ้าต้องปะทะฉลามคลั่ง สวัสดีครับ วันนี้แอดจะมารีวิวหนังสุดระทึกขวัญเมื่อกลุ่มวัยรุ่นต้องเอาชีวิตรอดกับเครื่องจักรสังหารท่ามกลางทะเลสุดกว้างใหญ่ ทันที่ที่มันออกสตาร์ท ความตายก็ไล่ตามหลังแบบนันสต็อปผลงานเรื่องล่าสุดจากผู้สร้าง 47 Meters Down

หลังจากที่ปล่อยภาพโปสเตอร์ไทย และ ตัวอย่างแรกไปแล้ว ผลงานเลือดสาดสุดโหดอย่าง “Shark Bait ฉลามคลั่งซัมเมอร์นรก” ก็สร้างเสียงฮือฮา ปลุกกระแสฉลามคลั่งให้กลับมาอีกครั้ง แถมยังการันตีความสนุกจากผู้สร้าง 47 Meters Down ที่ขอกลับมาขยี้ความระทึกให้แหลกกับนักล่าตัวใหม่ ที่จะทำให้คุณกลัวทะเลตลอดไป

นี่ไม่ใช่แค่หนังฉลามแต่คือหนังไฮคอนเซ็ปต์ ลุ้นระทึกแนวใหม่ ที่จะทำให้ผู้ชมลุ้นไปกับการซิ่งเจ็ตสกีหนีฉลามครั้งแรกบนโลกภาพยนตร์! เพราะเมื่อหนังเริ่มออกสตาร์ทจะไม่มีวินาทีไหนที่คุณจะรู้สึกปลอดภัย ซึ่งผู้กำกับ “เจมส์ นันท์” แฟนพันธุ์แท้หนังฉลามได้สร้างผลงานเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการสดุดีหนังฉลามในตำนานอย่าง “JAWS” ซึ่งเขาต้องทำการบ้านอย่างหนัก ด้วยการดูสารคดีเกี่ยวกับฉลามนับไม่ถ้วน เพื่อสร้างบรรยากาศความระทึกในท้องทะเลให้สมจริงที่สุด จนออกมาเป็นสุดยอดหนังฉลามคลั่ง ที่จะทำให้คุณต้องเสียวขา และ ผวากับทะเลไปอีกนานแสนนาน! ดูหนังฟรี

รีวิว Shark Bait

รีวิวหนังมาใหม่ คือเรื่องราวสุดบ้าของกลุ่มวัยรุ่น ใช้เวลาทริปปิดเทอมไปท่องเที่ยวกันที่เมืองตากอากาศในประเทศเม็กซิโก เมื่อซัมเมอร์หฤหรรษ์ กลายเป็นฝันร้ายสุดหฤโหด เหล่า 5 วัยรุ่นที่คึกคะนองได้นำเจ็ตสกีออกไปซิ่งกลางทะเล และ นั่นคือจุดเริ่มต้นของความวิปโยค เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นทำให้พวกเขาต้องลอยคออยู่กลางทะเลลึก ห่างไกลจากชายฝั่ง ไร้สัญญาณ โดยมีเจ็ตสกีเหลือเพียง1ลำ พวกเขาต้องพยายามทำทุกทางเพื่อเอาชีวิตรอด แต่เวลาเริ่มนับถอยหลัง เมื่อฉลามคลั่งใต้ท้องทะเล กำลังจ้องเล่นงานพวกเขา

รีวิว Shark Bait

การเอาตัวรอดหนีจากฉลาม ซึ่งที่มีชื่อว่า Shark Bait ของ James Nunn ได้รับการยกย่องจากการเปรียบเทียบในสถานะที่น่ากลัวในปัจจุบันของการตวัดครีบร่วมสมัย ใครๆ ก็สามารถบันทึกภาพสยองขวัญทางน้ำที่น่าตื่นเต้นได้มากกว่า Great White ในปี 2021 หรือ The Requin ในปี 2022 ด้วยกล้องมือถือ สระน้ำตัวเล็ก

รีวิว Shark Bait

และ หุ่นกระบอก Street Sharks ไม่ใช่ตั้งแต่ Deep Blue Sea 3 ในปี 2020 ที่โรงภาพยนตร์ฉลามได้รับการแสดงความยุติธรรม แต่ก็มีการเพิ่มขึ้นใน Shark Bait เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับความหวังสำหรับอนาคต ไม่มีคุณสมบัติที่มองเห็นได้ใด ๆ

นอกเหนือจากธรรมชาติของการพลิกคว่ำ และ ชุดว่ายน้ำที่แตกต่างกัน ของตัวละคร แต่นันน์ดูแลเลือดนองเลือด และ ความสามารถด้านเทคนิคพิเศษ เพียงพอที่จะอยู่เหนืออินดี้อื่น ๆ ที่เข้าใจผิดว่าขากรรไกรของสตีเวนสปีลเบิร์กเป็นการเล่นของเด็กที่กระฉับกระเฉง

รีวิว Shark Bait

และความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่าง The Reef หรือ Open Water กับ Shark Bait คือวิธีการแยกมหาสมุทร ใน Shark Bait สปริงเบรกเกอร์ 5 ตัวขโมยเจ็ทสกี 2 ตัว และ ขี่พวกมันเป็นระยะทางหลายไมล์สู่น่านน้ำชายฝั่งของเม็กซิโก ซึ่งพวกมันชนกันอย่างโง่เขลาขณะเล่นไก่ รถลอยน้ำคันหนึ่งจมลง เกร็ก (โธมัส ฟลินน์) หักขาของเขาอย่างรุนแรง กระดูกที่สัมผัสอยู่รอบ ๆ น้ำเกลือ yikes

และ ไทเลอร์ (Malachi Pullar-Latchman) อาจถูกกระทบกระเทือน แนวชายฝั่งของเม็กซิโกไม่อยู่ในสายตา ไม่ว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร เพื่อทำให้เรื่องแย่ลง (เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง) แนท (ฮอลลี่ เอิร์ล) เด็กสาวจากแคนซัสพบว่าทอม (แจ็ค ทรูแมน) แฟนหนุ่มของเธอนอกใจมิลลี่ (แคทเธอรีน ฮันเนย์) ฉันแน่ใจว่าฉลามที่หิวโหย และ ก้าวร้าวที่โผล่ขึ้นมาจะช่วยให้แนท ทอม และ มิลลี่จัดการเรื่องอารมณ์ของพวกมันได้อย่างสงบ

และ เพื่อนของนักเขียน Bloody Disgusting หลายคน Chris Evangelista ประกาศบน Twitter: “มนุษย์หมาป่า CGI ในภาพยนตร์ควรผิดกฎหมาย” ฉันจะขยายความรู้สึกนั้นให้รวมฉลามด้วยเพราะภาพยนตร์สยองขวัญอินดี้ได้ทำลายศิลปะของสยองขวัญทางน้ำด้วย cheapo, Tomb Raider บน PS1 มองนักล่าจากส่วนลึก The Shallows หรือ 47 Meters Down

ซึ่งหลีกหนีจากการแปลงร่างคนร้ายที่ว่ายน้ำเป็นดิจิทัล เพราะพวกเขามีเงินพอที่จะจัดการฉลามเคลื่อนไหวที่เหมือนจริงซึ่งมีส่วนได้เสีย ดังนั้น มาเข้าเรื่องกันเลย เกิดอะไรขึ้นกับฉลามใน Shark Bait?

และ บางทีผู้อำนวยการสร้างของภาพยนตร์อาจได้เรียนรู้บทเรียนหลังจากให้คะแนนบทวิจารณ์อย่างล้นหลามด้วย 47 Meters Down จากนั้นจึงวิจารณ์อย่างหนักกับ Great White ภูมิหลังของ Nunn ในฐานะผู้กำกับแอ็คชั่น (ผู้ทำงานร่วมกันของ Scott Adkins บ่อยครั้ง) และ ความพยายามของทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์ของเขาไม่เท่ากับความยิ่งใหญ่ทางคอมพิวเตอร์ของ The Shallows

แต่ฉันกล้าพูดไหมว่าความน่ากลัวของตอร์ปิโดของ Shark Bait ไม่ได้ดูแย่นักในแวบแรก ช่วงเวลาที่การโจมตีด้านล่างหมายความว่า Big Chompy พยายามที่จะกลืนทุกคนบนเจ็ตสกี

แต่จบลงด้วยการหนีบขาที่ไม่สามารถกัดผ่านเปลือกไฟเบอร์กลาสได้เป็นภาพที่อ่อนแอที่สุด เรากลับมาที่ The Requin หรือ Great White เมื่อน้ำกระเซ็น จมูกพุ่งชน และ สัตว์อนิเมชั่นที่ดูโชคร้ายไม่ได้อยู่ในเฟรม ที่อื่น Nunn ใช้ความลึกก้นทะเลที่มืดลงหรือการตัดอย่างรวดเร็วอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้เรามีสิ่งที่ดุร้าย และ เป็นธรรมชาติมากขึ้น

อีกครั้ง บางทีนี่อาจมาจากผู้ประสบภัยจากการโจมตีของฉลามภาพยนตร์ที่น่าสยดสยองหลายครั้งในความทรงจำเมื่อเร็ว ๆ นี้ (นอกเหนือจากราชาฉลาม) แต่ Shark Bait สร้างสัตว์ประหลาดที่น่าหวาดกลัวด้วยการระเบิดที่เปียกโชก

ในส่วนของ นิค ซอลเทรส ผู้เขียนบทภาพยนตร์พยายามทำอย่างที่หลายๆ คนเคยทำมาก่อน: โน้มน้าวผู้ชมว่าตัวละครนั้นโง่พอที่จะติดอยู่ในน่านน้ำที่มีปลาฉลาม ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก เนื่องจากกลุ่มที่ยังเมาสุราไม่สนใจคำเตือนในท้องที่ และขโมยรถที่เช่าได้เพียงเพื่อจะชนพวกเขาเข้าด้วยกันเป็นไมล์ ( และ หลายไมล์) จากฝั่ง

เมื่อติดอยู่แล้ว ก็ยากที่จะคงการทะเลาะวิวาทของพวกเขาไว้ได้ และอุบายจะเผยผลลัพธ์ที่คาดเดาได้มากที่สุด แน่นอนว่าแนทก็ลอยอยู่ เบียดเสียดกันบนเรือสองคนที่ดีที่สุดกับคนรักขี้โกงของเธอ และ เพื่อนของพวกเขา ซึ่งเป็นคู่นอนคนสุดท้ายของเขา ชั้นเชิงของละครนี้ไม่ได้เพิ่มอะไรเลยเพราะ Shark Bait ไม่ใช่มหากาพย์ล่าสุดของเช็คสเปียร์ในปี 2022 หนังฟรี

สรุป Shark Bait

รีวิวหนังมาใหม่ สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดก็ไม่ได้มีอะไรนอกจากความโง่เขลาเพราะแผนการต้องคืบหน้า หรือถูกต้องกว่านั้น นันน์ต้องทำให้เหยื่อตกอยู่ในอันตรายเพื่อย้อมผืนน้ำให้เป็นสีแดง การแสดงไม่เคยเป็นที่น่ารังเกียจ แต่ส่วนโค้งของตัวละครนั้นเปียกโชกด้วยความคิดโบราณที่ติดอยู่ในทะเล และ ไม่เคยมีความพยายามใด ๆ ที่จะยกระดับ Shark Bait

ซึ่งทำไมฉลามยังไล่ตาม? นักท่องเที่ยวของแนทเดินทางไกลจากแผ่นดินด้วยเจ็ทสกีได้อย่างไร? ทำไมคนงี่เง่าถึงแยกตัวออกจากกัน? เพราะคุณดูฉลามสะบัดอย่างบ้าคลั่งในการป้อนอาหาร! ไม่ว่าทีมผู้สร้างจะปล้ำน้ำอย่างไร

และ เครดิตของ Shark Bait การถ่ายภาพยนตร์ทำให้น้ำทะเลสีฟ้าที่ลึกที่สุด และ สีของชุดว่ายน้ำไฟฟ้าอิ่มตัว ดังนั้นจึงไม่เคยดูน่าเกลียดเลย ยังดีกว่า บาดแผลเมื่อฉลามจู่โจมรุนแรงกว่าที่คาดคิด การตายที่สำคัญ เมื่อตัวละครตัวหนึ่งเกาะติดอยู่กับอีกตัวหนึ่งเพื่อชีวิตอันเป็นที่รัก ร่างกายของพวกเขาจมลงไปถึงเอวขณะที่เมฆสีแดงเข้มขายสิ่งที่เกิดขึ้นด้านล่าง เป็นเรื่องที่ค่อนข้าง แปลกสำหรับแฟนเลือดสาด ไปดูกันเลย ดูหนังออนไลน์