หนัง Aladdin Live Action พล็อตเรื่องจะมีการผสมผสานระหว่าง อะลาดิน เวอร์ชั่นการ์ตูนและเรื่องราวจาก 1,001 Arabian Nights (นิทานอาหรับราตรี) โดยผู้กำกับคือ Guy Ritchie ที่เคยกำกับหนัง Sherlock Holms (ที่แสดงนำโดย Robert Downy JR.) และ John August มาทำหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์
คนประทับใจที่ได้เห็นเจ้าหญิงที่ตนชื่นชอบลุกขึ้นมาสู้และไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจปิตาธิปไตยของผู้ชายในช่วงเวลานั้นอีกด้วยค่ะ แถมเพลง Speechless ที่เป็นเพลงที่ถูกแต่งขึ้นมาใหม่เพื่อตัวละคร Jasmine โดยเฉพาะก็ยังดังเป็นพลุแตกอีกด้วย มาแรงแซงหน้าเพลงประจำเรื่องอย่าง The Whole New World ไปเลยค่ะ
และแนะนำอย่างยิ่ง ถ้าหากใครจะชม Infinity War ก็ควรชมภาพยนตร์ชุดนี้ก่อนเพราะว่าเรื่องราวต่อจากCivil War ข้อเสียของหนังจักรวาลมาร์เวลนั้นมีเพียงอย่างเดียวคือถ้าไม่ไล่ดูตามTime Line ก็จะเกิดอาการค้างเติ่งไม่รู้ว่าเป็นไปเป็นมาอย่างไร หรือว่าพวกเขาไปทะเลาะกันตอนไหนนั่นเอง
ไหนๆก็พูดถึงความรู้สึกที่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ขอพูดถึงเรื่องเพลงกันบ้างแล้วกัน นึกว่าเป็น 1 ผลงานเพลงประกอบที่ได้รับรางวัลมากมาย ไม่แพ้กับภาพยนตร์เลยทีเดียว อย่างเพลง My Heart Will Go On มันเป็นเพลงที่ประกอบทำให้เรานั้นอินได้กับอารมณ์ของภาพยนตร์ได้อย่างสุดยอดจริงๆ ทั้งเพลงประกอบทั้งการดำเนินเรื่องที่น่ามหัศจรรย์ อีกทางยังคัดเลือกนักแสดงได้ดีจริงๆ นางเอกก็สวย พระเอก
ฉากที่ใครหลายๆคนจดจำ ก็คงจะหนีไม่พ้นฉากรักในตำนาน ที่แจ็คกับโรส ยืนกางแขนอยู่ที่หัวเรือสำราญลำใหญ่ แล้วก็มีเพลงประกอบอย่างเพลง My Heart Will Go On ดังขึ้นมาทำให้คนดูนั้นรู้สึกว่า รักตัวละครสัก 2 ตัวนี้เข้าไปอีกเป็นความลับที่แสนจะโรแมนติกของทั้งคู่ น้ายังไม่พอเท่านั้นนี่ฉากนี้ทำให้เรารู้สึกถึงความอึดอัดใจของโรสแต่รู้สึกดีใจที่ เธอได้ปลดปล่อยความเศร้า และแน่นอนว่าเป็นฉากที่ นำมาเป็นเมมล้อเลียนหลายๆอย่างใน Facebook มากมาย
แล้วยังมีอีกอย่างหนึ่งที่เราอยากจะพูดถึง ผมที่เราเห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นถูกทอขึ้นโดยโรงงานเดิมที่เคยผลิตให้กับเรือไททานิคของจริง แล้วไม่ใช่แค่ผมอย่างเดียวเท่านั้น แต่ว่าในการก่อสร้างฉากที่อยู่ข้างในเรือลำนี้ และควบคุมการสร้างโดยทีมงานของ the white Star Line ที่เป็นเจ้าของเรือไททานิค เพราะว่า เจมส์คาเมรอน ต้องการที่จะให้ภาพยนตร์ออกมาตามประวัติศาสตร์ของจริงได้มากที่สุด
เท่าที่ตัวเขานั้นจะทำได้ เจ้าตัวได้ยืนยันว่าจะต้องใช้ Wallpaper โคมไฟระย้า หน้าต่างบานกระจกตะกั่ว ให้เหมือนกับที่เรือไททานิคนั้นใช้จริง แต่ยังไม่พอแค่นั้น เขาละเอียดถึงขั้นที่ใช้ลายน้ำโลโก้ของ The white Star Line ที่ประทับบนข้าวของของเครื่องใช้ทุกชิ้นภายในฉากที่เราได้เห็นด้วย ต่อให้ไม่เห็นในหนังก็ตามแต่ทุกชิ้นนั้นมีตราประทับ
ถ้าหากพูดถึง หนังผจญภัย ในโลกที่สิ้นหวังคงพลาดไม่ได้ที่จะพูดถึง ภาพยนตร์ซีรีส์อย่าง The Last of us ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเกมชื่อดังที่ใครหลายๆคนอาจจะรู้จักเป็นอย่างดี ที่มีให้เล่นทั้งในแพลตฟอร์มของ PlayStation ไม่ว่าจะเป็น PlayStation 3 PlayStation 4 หรือแม้แต่ใน playstation 5 เรียกได้ว่าเป็นเนื้อเรื่องที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
ในฉบับซีรีย์ The Last of us จะใช้โครงสร้างเดียวกับฉบับเกม
เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเลย ที่ตัวซีรีย์นั้นใช้โครงสร้างเดียวกับเกม the last of usเรื่องย่อ เริ่มต้นก็จะย้อนไปเมื่อปลายเดือนกันยายนปี 2013 ที่ได้เกิดเหตุไม่คาดคิดอย่าง เชื้อไวรัสที่ระบาดโดยที่ไม่มีการทราบสาเหตุ และมันแพร่กระจายไปแบบเร็วมาก ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนที่การติดเชื้อนั้น จะผ่านการที่ผู้คนนั้นถูกกัด แล้วจะแพร่กระจายไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว
เอาล่ะครับคราวนี้เราจะมาพูดถึงส่วนของนักแสดง the last of us ตัวละคร กันบ้าง ที่ได้มารับบทในฉบับของ Series เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงยอดฝีมือกันเลยทีเดียว เราถึงเริ่มจากตัวหลักของเกม อยาก โจเอล ก็จะได้นักแสดงที่มี ฝีมือสุดยอด อย่าง Pedro Pascal ที่เคยรับบทชายสวมหน้ากาก ในภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง The mandalorian ขนาดที่เขาใส่หน้ากากจนแทบทั้งเรื่อง ยังแสดงความสามารถและเฉิดฉายมาได้ และมาอยู่ในซีรีย์ฉบับซอมบี้ครั้งนี้ ไม่ต้องใส่หน้ากากเลยจะเฉิดฉายกันขนาดไหน
และสาวน้อยตัวหลักความหวังของโลกใบนี้อีกคนหนึ่ง คนที่จะมารับบทเอลลี่ สาวน้อยปากแซ่บ ที่ได้นักแสดงสาวอย่าง เบลล่า แรมซี่ ที่แสดงฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกันในซีรีย์ของ Game of Thrones เรียกได้ว่าการมาแสดงพลังของตัวละครจากเกมแบบนี้ ทำเอาเป็นแฟนนั้นหลงรักกันไปตามๆกัน ถึงแม้ตอนแรกนั้นจะทำให้เรารู้สึกว่าหมั่นไส้ก็ตาม แต่เธอนั้นแสดงออกมาได้อย่างดีเลย
ผมที่ดู the last of us ep 1 และ ep 2 มาแล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยที่ผมนั้นเล่นเกมนี้มาแล้วด้วย ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าไม่เป็นการดัดแปลงที่ Perfect เรียกได้ว่าเป็นการขยายเนื้อเรื่องเนื้อหาและเรื่องราวที่ในตัวเกม อาจจะไม่ได้เล่าในฉากต่างๆบ้าง ให้คนที่เล่นเกมมาก่อนนั้นได้เห็นมุมมองต่างๆ ที่ไนโตรเจนไม่ได้บอกให้เราทราบ รักและการตัดฉากที่มีความรวบรวมในหลายๆส่วน ที่ในแถบนั้นได้ย่อลงไป
ต้องเล่าย้อนว่าส่วนตัวไม่ค่อยชื่นชมไตรภาคใหม่นี้ ตั้งแต่ Jurassic World แล้วนะ เพราะมันคือการก๊อปแล้วพัฒนาจาก Jurassic Park มามากเกินไป ความรู้สึกเหมือนที่ Star Wars: Episode VII – The Force Awakens (2015) ก๊อปการเดินเรื่องมาจาก Star Wars: Episode IV – A New Hope (1977) นั่นล่ะ ไม่รู้เป็นเทรนด์หนังรีแบรนด์ในปี 2015 หรือเปล่านะเนี่ย คือมันดีในแง่ความแข็งแรงของโครงเรื่องที่พิสูจน์ผลมาแล้วและมนต์เสน่ห์แบบนอสตัลเกียล่ะ แต่มองในแง่ความสร้างสรรค์สดใหม่มันกลายเป็นกระทืบเท้าอยู่กับที่ แค่กระทืบแรงขึ้นเท่านั้นเอง คือต้องเข้าใจนะว่าค่ายหนังกำลังรีแบรนด์ของเก่าเพื่อเอามาขายเด็กรุ่นใหม่ มันเลยจะทำงานมากกับคนที่ไม่เคยดูหนัง เว็บหนัง ไตรภาคเดิมมาก่อน
และกับประเด็น Fallen Kingdom อิงโครงงานเก่า มันก็อาจไม่ใช่ข้อหาที่เกินเลย ถ้าจะมองมันเทียบกับภาคต่อ Jurassic Park อย่าง The Lost World: Jurassic Park (1997) ที่ทะลึ่งเนื้อหาไปคล้ายกันเข้าอีก ทั้งการที่สวนสนุกถูกทิ้งรกร้าง เหล่านักวิทยาศาสตร์และทหารต้องการกลับเข้าไปจับไดโนเสาร์มา แต่ฝ่ายหนึ่งเล่นไม่ซื่อต้องการจับกลับไปเพื่อผลประโยชน์ จนหนังครึ่งหลังกลายเป็นหนังไดโนเสาร์ถล่มเมืองไปเสียฉิบ มองแบบนี้ Fallen Kingdom เพิ่มแค่ภูเขาไฟระเบิดมาในครึ่งแรกเท่านั้นเอง ยิ่งการที่มีดารานำจาก The Lost World อย่าง เจฟ โกลด์บลัม มารับเชิญในบทเดิม ดร.ไอแอน มัลคอล์ม อีก ยิ่งตอกย้ำภาพพงานก๊อปแบบคารวะงานเดิมเข้าไปใหญ่ คำถามคือแล้วที่เหลือมันเพียงพอให้หนังมันน่าจดจำไหม?