รีวิว The Tinder Swindler สิบแปดมงกุฎทินเดอร์ หนังสารคดี netflix เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวความรักยุคใหม่ที่เป็นเหมือนเกมอันตรายในโลกของการหาคู่ออนไลน์ และสิ่งที่เห็นวิ้งๆ ปิ๊งวับอาจจะไม่ใช่ทองเสมอไป ชายหนุ่มในฉายา “The Tinder Swindler” ทั้งหลอกล่อและตบทรัพย์สาวๆ หลายคนไปหลายล้านดอลลาร์ แถมยังเป็นผู้ร้ายข้ามแดนในอีกหลายประเทศ ระวัง ปัดผิดชีวิตเปลี่ยน นี่คือเรื่องราวสวยหรูราวเทพนิยายในฝันของใครหลายคนที่กลายมาเป็นฝันร้าย มาติดตามกันว่าผู้หญิง 3 คนที่ตัดสินใจเอาคืนจะจัดการเรื่องนี้ยังไง
ชีวิตในวัยเด็กเราล้วนถูกหล่อหลอมว่าการเติบโตมามีความ “ความรัก” ด้วยการเจอเจ้าชายรูปงาม หล่อ รวย น่าจะถือว่าเป็นนิพพานของหญิงสาวหลายๆคน แต่ใครจะไปคิดว่าการได้เจอชายในฝันอาจจะกลายเป็นฝันร้ายที่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำไปยันวันตาย กับสารคดีสุดบันเทิงที่สนุกยิ่งกว่าหนังอาชญากรรมกับ The Tinder Swindler
ซิซีเลีย หนึ่งในหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อของการถูกต้มตุ๋น มานั่งบรรยายชีวิตรักที่เธอตามหาจากโซเชียลมีเดียอย่างทินเดอร์มาตลอดทั้งชีวิต ว่าการจะค้นเจอ “ชายหนุ่มในฝัน” นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เธอเปรียบชีวิตของตัวเองเสมือน “เบลล์” ใน Beauty and the Beast ฉบับวอลท์ ดิสนีย์ ที่คิดว่าสักวันเธออาจจะได้เจอเจ้าชายรูปงาม
ผู้หญิงอย่างซิซีเลียยังเปรียบเปรยว่าตัวเองเป็นผู้หญิงจากเมืองเล็กๆที่เฝ้าฝันจะมีความรักอันยิ่งใหญ่ไม่ต่างอะไรจากเบลล์ เธอได้เจอผู้ชายที่กำลังประสบปัญหาในชีวิตและเธอได้มีโอกาสจะช่วยเหลือเขาไว้ เช่นเดียวกันอสูรก็ได้ช่วยเบลล์ในอีกทางหนึ่ง ทั้งสองจึงได้เข้าสู่ชีวิตของกันและกันในที่สุด ถึงเธอจะรู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องราวอันแสนคลาสสิกนี้ไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันก็ยังคงตราตรึงอยู่ในใจเสมอ
การตามหาเจ้าชายชาร์มมิ่งในชีวิตจริงเป็นเรื่องที่ยากเย็นมากๆ และผู้หญิงหลายคนบนโลกนี้ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ซิซีเลียสารภาพกับคนดูว่าเธอเล่นแอปฯ ทินเดอร์มานานกว่า 7 ปี แมตช์กับคนมากมายหลักพัน แน่นอนว่าเธอมองหาความสัมพันธ์ที่ยืนยาวมากกว่าแค่หาคู่นอน เธอยังหยิบยกประโยคจากหนังเรื่องดังที่มาริลิน มอนโร กล่าวเอาไว้ว่า “ไม่รู้เหรอคะว่า ผู้ชายรวยก็เหมือนผู้หญิงสวย คุณอาจไม่ได้แต่งงานกับผู้หญิงแค่เพราะเธอสวย แต่ให้ตายสิมันก็มีส่วนไม่ใช่เหรอ”
จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้ปัดทินเดอร์ไปเจอกับไซม่อน เลอไวฟ์ หนุ่มหล่อนักธุรกิจที่มีไลฟ์สไตล์หรูหรา ไม่ว่าจะเป็นภาพงานประชุม การพักผ่อนบนเรือยอร์ช หรือกระทั่งการนั่งเครื่องบินส่วนตัว ซิซีเลียแทบไม่คาดคิดว่าหลังจากที่เธอ “ปัดขวา” ไปเพียงไม่กี่นาที ไซม่อนจะตอบกลับมาอย่างรวดเร็วว่า “อยากมาเจอผม ก่อนที่ตัวเขาจะเดินทางออกจากลอนในวันพรุ่งนี้ไหม” แน่นอนว่า หลังจากคุยกันได้ไม่นาน ซิซีเลียจึงตัดสินใจไปพบกับเขา ที่โรงแรมหรูอย่างโฟร์ซีซั่นในกรุงลอนดอน
ระหว่างนัดทานกาแฟ ซิซีเลียก็ได้รับรู้ว่า ไซม่อนเป็นลูกชายของนักธุรกิจที่ดำรงตำแหน่งซีอีโอของแอลแอลดีไดมอนด์ ที่รับช่วงต่อมาจากรุ่นพ่อ อีกทั้งเขายังตรงไปตรงมาว่ามีลูกสาวแล้วหนึ่งคน แต่ได้แยกทางกับแม่ของเด็กแล้วเรียบร้อย อีกทั้งงานของเขาทำให้ต้องเดินทางไปไหนมาไหนทั่วโลกตลอดเวลา เขาจึงยื่นข้อเสนอให้กับซิซีเลียว่าอยากจะไปบัลแกเรียระหว่างที่เขาไปเจรจาธุรกิจไหม แน่นอนว่าซีซิเลียไม่อยากจะปล่อยให้ผู้ชายคนนี้หลุดมือไป เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปกับเขา
รีวิว The Tinder Swindler
ดูเหมือนกับว่าช่วงเวลาที่ซิซีเลียได้อยู่กับไซม่อนในระยะเวลาสั้นๆ เธอสัมผัสได้ถึงความโรแมนติกของชายหนุ่มคนนี้ จนกระทั่งเมื่อเดทครั้งแรกจบลง ทั้งสองจึงพูดคุยติดต่อกันผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่าง WhatsApp อยู่ตลอด พร้อมกับที่ไซม่อนบอกความจริงเกี่ยวกับตัวเขาที่ว่า การทำงานอยู่ในวงการเพชรนั้นค่อนข้างอันตรายเนื่องจากมีศัตรูทางธุรกิจที่หมายหัวจะเอาชีวิตเขาอยู่ตลอดเวลา
เหตุการณ์ใน The Tinder Swindler ถูกตัดสลับมาเล่าผ่านเพอร์นิลล่า หญิงสาวอีกคนที่ได้พบกับไซม่อนผ่านทางทินเดอร์ และดูจะมีชะตากรรมไม่ต่างอะไรจากซิซีเลีย ในเวลาต่อมา เมื่อผู้หญิงทั้งสองคนกำลังจะได้พบเจอเรื่องราวที่ระทึกที่สุดในชีวิต เมื่อฝ่ายชายได้ส่งภาพบอดี้การ์ดของตัวเองถูกจู่โจมจนบาดเจ็บ ก่อนจะเริ่มขอความช่วยเหลือจากฝั่งผู้หญิงด้วยการขอให้พวกเธอช่วยทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตที่เปิดขึ้นด้วยชื่อของพวกเธอเอง!
เรื่องราวอันแสนเหลือเชื่อยิ่งกว่าหนังโจรกรรม The Tinder Swindler พาเราไปสำรวจความฝันของหญิงสาวที่มองหาความรักอันแสนสุดโต่ง ราวกับเทพนิยาย เพราะเจ้าชายในยุคปัจจุบันคงไม่ต่างอะไรจากมหาเศรษฐี โดยที่พวกเธออาจจะไม่ทันได้ฉุกคิดว่า บางครั้งการได้เจออะไรที่ดีเกินจริงนั้น อาจจะมาพร้อมกับเบื้องหลังสุดสะพรึงเช่นกัน
เมื่อซิซีเลียและเพอร์นิลล่า เริ่มค้นพบความจริงที่ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อของนักต้มตุ๋นระดับเซียน แต่นั่นก็สายเกินแก้แล้ว เพราะบัญชีบัตรเครดิตที่ถูกสูบเงินออกไปจนเต็มวงเงิน ล้วนแล้วแต่ถูกใช้งานผ่านชื่อของพวกเธอเอง ดูหนัง
ระหว่างทางของ The Tinder Swindler คือการสำรวจห้วงอารมณ์ของเหยื่ออย่างซิซีเลียและเพอร์นิลล่า ราวกับกำลังเล่าเรื่องราวชีวิตอันสุดแสนโรแมนติกชวนฝันให้กับคนดู ว่าทั้งคู่กำลังแจ็คพ็อตได้เจอเจ้าชายที่ตามหามาทั้งชีวิต แต่ทุกอย่างก็กลับพลิกผันกลายเป็นหนังระทึกขวัญ เมื่อความจริงได้ปรากฏขึ้น ในฐานะผู้ชมที่ได้นั่งฟังเรื่องราวของพวกเธอทั้งสองก็ได้แต่เซอร์ไพรส์ว่า เรื่องราวแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในโลกของความเป็นจริงได้ด้วยหรือ (มีฉากไล่ล่าแบบหนังรถซิ่งด้วยนะเออ !)
ที่เด็ดดวงไปกว่านั้นคือองค์สุดท้ายของสารคดีที่มาพร้อมการพลิกสถานการณ์ เมื่อ “เหยื่อ” คนหนึ่งไม่ยอมจำนนอีกต่อไป ยังไม่รวมไปถึงบทสรุปที่พลิกตอนจบของหนังแฮปปี้เอนดิ้งในแบบที่เราเคยชมมานับครั้งไม่ถ้วน พร้อมกับความกวนโอ้ยของตัวผู้กำกับหญิงอย่างเฟลิซิตี้ มอร์ริส ที่เราไม่อยากสปอยล์เพราะอยากให้คุณไปสตรีมกันเอาเอง ว่าสารคดีเรื่อง “สนุก” ไม่แพ้หนังอาชญากรรมหลายๆเรื่องเลยทีเดียว
มาในเรื่องนี้ทีมผู้สร้างก็ยังแนวการเล่าเรื่องสนุกๆ กับอาชญากรรมออนไลน์แบบเดิม ซึ่งโครงเรื่องแนวหลอกให้รักจากโลออนไลน์ โดยเฉพาะแอปหาคู่อย่างทินเดอร์อาจจะเป็นอะไรที่คนดูคิดว่ามันมีเกลื่อนอยู่แล้วทั่วโลก แต่จุดเด่นของเรื่องนี้คือ อาขญากรที่ตัวสารคดีนำมาบอกเล่าเป็นการไล่ล่าอาชญากรระดับโลกใหญ่โตมากๆ
สรุป สิบแปดมงกุฎทินเดอร์ สนุกและดีไหม
มีหมายจับหลายประเทศ โดยยังคงใช้สูตรตัวละครชาวบ้านธรรมดาที่ตกเป็นเหยื่อ ไล่ล่ากลับไปยังตัวอาชญากรได้ในแบบเดียวกับที่ Don’t Fuck With Cats เคยทำเอาไว้ ซึ่งตำรวจแทบจะไม่ต้องสืบอะไรมากเพราะเหยื่อตามสืบข้อมูลให้มากมายแล้ว (เอาจริงๆ คดีแนวนี้ตำรวจทุกที่ก็ไม่ค่อยสนใจทำด้วย) ทำให้เรื่องราวที่ออกมาดูสนุก ตื่นเต้น เร้าอารมณ์ว่าเหยื่อจะตามเอาคืนอาชญากรที่หลอกพวกเธอด้วยวิธีไหน และขั้นตอนในการตามสืบกันเองเป็นอย่างไร โดยในเรื่องนี้ใช้คลิปจากเหตุการณ์จริงๆ ที่ถ่ายไว้ตอนวางแผนมาเปิดให้ดูด้วย
ในเรื่องนี้เริ่มจากหญิงสาว 2 คนที่ตกเป็นเหยื่อจากไซมอน (มีหลายชื่อ) หนุ่มหล่อที่อ้างว่าตัวเองเป็นทายาทมหาเศรษฐีในวงการค้าเพชร ซึ่งเหยื่อทั้งสองคนนี้อยู่คนละประเทศ แล้วก็ถูกหลอกพร้อมกัน สารคดีจะเล่าเรื่องที่อาจจะคล้ายกันของทั้งคู่มากว่าโดนหลอกจากไซมอนในแบบไหนผ่านทินเดอร์ แต่สิ่งที่ทั้งคู่แตกต่างกันมากคือ
เหยื่อคนนึงคือโดนหลอกให้รัก ส่วนอีกคนโดนหลอกให้เป็นเพื่อน ซึ่งหมอนี่อาจจะมีความสัมพันธ์แบบอื่นอีก แต่ในเรื่องจะนำความสัมพันธ์ปลอมทั้งสองแบบนี้มาเล่าคู่ขนานกันว่าทั้งคู่โดนหลอกพร้อมกันเพื่อเหตุผลอะไร ซึ่งต้องบอกเลยว่าหมอนี่คือสุดยอดอาชญากรโรแมนซ์ สแกม ที่เล่นกับความรู้สึกของคนอื่นได้อย่างสุดยอดมาก
ทั้งการวางแผนเป็นขั้นตอน การสร้างภาพให้เหยื่อเชื่อสนิทใจ มีทีมงานต้มตุ๋นค่อยช่วย หรือแม้แต่พนักงานโรงแรมหรูเองก็ยังเชื่อว่าหมอนี่คือทายาทมหาเศรษฐีจริงๆ และไม่ใช่แค่การหลอกเอาเงินเข้าตัวอย่างเดียว แต่ไซมอนเองเสพติดชีวิตหรูหราจากการหลอกลวงมากกว่าเป็นมิจฉาชีพที่หลอกเพื่อเงินแล้วชิ่งหนีเพียงอย่างเดียว
ตัวสารคดีเล่าเรื่องจากหญิงสาว 2 คน ที่โดนหลอก จนเมื่อพวกเธอรู้ความจริงก็นำเรื่องไปสู่นักข่าว ก็กลายเป็นการวางแผนเก็บข้อมูลเพื่อนำมาทำสกู๊ปเปิดโปงชิ้นใหญ่ ก่อนที่ข่าวชิ้นนี้จะโด่งดังมากมาย และทั้งคู่ก็ต้องเจอผลกระทบจากการออกมาบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองเช่นกัน ซึ่งจุดเด่นของทีมงานนี้ตั้งแต่
Don’t Fuck With Cats ก็คือการถ่ายทอดอารมณ์ดราม่าของตัวละครในเรื่องออกมามากกว่าแค่เล่าเรื่องไปเฉยๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องเราอาจจะเธอเล่าเรื่องแบบดูสนุกไปกับการถ่ายทำสารคดี เหมือนเรื่องราวเหล่านี้ผ่านไปพ้นไปแล้วแบบเทพนิยายในฝันลวงๆ แต่แล้วกลับมีช็อตเปลี่ยนอารมณ์กลายเป็นเรื่องเศร้าที่เล่าไปพร้อมน้ำตา
อีกทั้งการที่คนในโลกโซเชียลส่วนหนึ่งกลับประณามตัดสินว่าพวกเธอผิดเพราะโลภ ดูคนแต่ภายนอก สารคดีได้เผยให้เห็นผลกระทบร้ายๆ กลับไปยังเหยื่อที่พยายามเปิดเผยเรื่องราวนี้แบบรอบด้าน แต่ในผลร้ายๆ นั้นก็ยังมีเรื่องดีๆ ตามมาเมื่อเรื่องราวโด่งดังจนนำไปสู่คนที่ให้เบาะแสข้อมูลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขนมาถึงตัวเหยื่อคนที่ 3 ที่เป็นคนวางแผนโต้กลับเอาคืนไซมอนได้อย่างเจ็บแสบเช่นกัน ซึ่งตรงนี้คือจุดพีคของเรื่องราวในสารคดีนี้
แต่ก่อนที่เรื่องราวจะจบลงในแบบความยุติธรรมมีจริง สารคดีกลับทำให้เห็นว่าไม่จริงเสมอไป ซึ่งบอกเลยว่าตอนจบของเรื่องนี้อาจจะทำให้คนดูที่อินๆ กับเรื่องยิ่งเจ็บปวดกับบทสรุปในโลกความเป็นจริงที่โหดร้าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าความผิดตกอยู่กับทินเดอร์ ยังไงสารคดีเรื่องนี้ก็น่าจะช่วยเป็นกระบอกเสียงความยุติธรรมให้กับเหยื่อได้อีกทางเช่นกัน
สำหรับคนที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยใช้ Tinder ขออธิบายข้อมูลพื้นฐานสักเล็กน้อย Tinder เป็นแอปสำหรับหาคู่ เมื่อเราเข้าใช้งาน ระบุเพศที่ต้องการหา ระยะทางในรัศมีกี่กิโลเมตร
แอปก็จะส่งภาพโปรไฟล์ของบุคคลที่เข้าข่ายความต้องการเรามาให้เลือก ถ้าคนไหนไม่ถูกใจก็ปัดซ้าย ถ้าถูกใจคนไหนก็ปัดไปทางขวา ทางคนที่เราถูกใจก็ปัดขวาภาพของเราเหมือนกัน แอปก็จะขึ้นคำเตือนว่า “Matched” แปลว่าเราและเขาถูกใจซึ่งกันและกัน จะมีสิทธิ์ในการส่งข้อความหากันได้ แล้วก็พูดคุยนัดหมายสานต่อไปกันเอง Tinder เป็นแอปสัญชาติอเมริกัน ถือกำเนิดมาได้ 10 ปีแล้ว ด้วยเหตุที่ใช้ง่ายจึงมีผู้คนนิยมใช้จำนวนมาก ปัจจุบันมีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 75 ล้านคน
The Tinder Swindler เล่าเรื่องราวของ 18 มงกุฏนายหนึ่งที่ใช้ Tinder เป็นช่องทางหลักในการหลอกลวงหญิงสาวยุโรปจำนวนมาก ได้เงินไปนับสิบล้านเหรียญ อ่านพล็อตแล้วชวนให้นึกถึงหนังต้มตุ๋นที่ฮอลลีวูดสร้างกันออกมาหลายเรื่อง อย่างเช่น Dirty Rotten Scoundrel (1988), The Hustle (2019), Focus (2015) และอีกหลายเรื่อง
ที่ตัวเอกของเรื่องเป็น 18 มงกุฏมืออาชีพ สร้างภาพลักษณ์จอมปลอมของตัวเองขึ้นมาว่าเป็นมหาเศรษฐี จนเหยื่อตายใจแล้วค่อยสร้างสถานการณ์คับขันมีความเดือดร้อนต้องใช้เงิน แล้วขอความช่วยเหลือจากเหยื่อเป็นเงินทีละนิดทีละหน่อย จนเป็นตัวเลขรวมจำนวนหลายล้าน จนเราไม่คิดว่าในโลกจริง ๆ ก็มีคนที่ใช้วิธีแบบนี้หากินแล้วก็ใช้วิธีเดิม ๆ นี่แหละหลอกเหยื่อได้มากมายนับสิบราย
หนังเดินเรื่องด้วยวิธีการสัมภาษณ์หญิงสาวผู้โชคร้าย ซีซิล (Cecilie Fjellhøy) และ เพอร์นิลลา (Pernilla Sjöholm) 2 รายสลับกันไปมา ตั้งแต่เริ่มสนใจใน Tinder จนกระทั่งมาเจอตัวร้ายของเรื่อง ไซมอน เลอไวฟ์ (Simon Leviev) ที่แนะนำตัวเองว่าเป็นทายาทมหาเศรษฐี เจ้าของธุรกิจค้าเพชรชาวอิสราเอล เขาสนใจในตัวเธอ นัดเธอไปพบ พาพวกเธอนั่งรถโรลสรอยซ์ พาทานอาหารแพง ๆ ที่ชีวิตพวกเธอไม่เคยได้สัมผัส พาไปขึ้นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว จนพวกเธอตายใจว่านี่ฉันโชคดีได้มาพบกับเจ้าชายในฝัน แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้ววิกฤตเลวร้ายที่สุดในชีวิตกำลังจะมาเยือนพวกเธอ
แม้ว่า The Tinder Swindler จะถูกจัดว่าเป็น ‘หนังสารคดี’ แต่ไม่ใด้เป็นสารคดีที่ว่าด้วยเนื้อหาสาระด้านวิชาการ แต่เล่าเรื่องราวของ 18 มงกุฎกับเหล่าสาวผู้เคราะห์ร้าย ก็มีความน่าสนใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
The Tinder Swindler
พอดูไปได้ 15 นาที หนังก็เอาคนดูอยู่หมัด ถึงแม้ว่าเรารู้แล้วว่า 2 สาวนี้จะต้องตกเป็นเหยื่อ แต่ก็ยังชวนติดตามว่า ไซมอนจะใช้ไม้ไหนมาหลอกพวกเธอ แล้วเมื่อไหร่พวกเธอถึงจะรู้ตัว ไปจนถึงองก์สุดท้ายของเรื่อง ว่าในที่สุด ซีซิลกับเพอร์นิลลาจะมาเจอกันได้อย่างไร แล้วจะแก้แค้นเอาคืนไซมอนด้วยวิธีไหน
ต้องบอกว่าจุดสำคัญที่ทำให้การเล่าเรื่องราวของ The Tinder Swindler เดินหน้าไปอย่างมีสีสัน ก็ด้วย ซีซิล กับ เพอร์นิลลา เจ้าของเรื่องตัวจริงนี่แหละ ที่มานั่งเล่าเรื่องราวด้วยตัวของเธอเอง ด้วยอากัปกิริยาแบบสบาย ๆ เหมือนเราเป็นคู่สนทนาได้มาฟังเธอเล่าประสบการณ์สุดระทึกของเธอเอง แม้จะเป็นคนเดินดินธรรมดาหาใช่นักแสดงไม่ แต่สีหน้าและน้ำเสียงของ 2 คนนี้ ก็สามารถดึงให้เรามีอารมณ์ร่วมไปกับเธอได้ ยิ้ม หัวเราะมีความสุขในตอนที่เธอเล่าถึงช่วงเวลามีความสุขกับไซมอน ร้องไห้เสียใจเมื่อรู้ว่าโดนหลอกแล้ว และยิ้มเยาะสะใจตอนที่คิดแผนเอาคืน
และคนสำคัญที่จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลยก็คือ เฟลิซิตี้ มอร์ริส (Felicity Morris) ผู้กำกับหญิง ที่ผ่านการเป็นผู้อำนวยการสร้างทีวีซีรีส์มาแล้ว 6 เรื่อง และ The Tinder Swindler คือผลงานกำกับเรื่องแรกของเธอ ซึ่งเธอก็สอบผ่านและทำได้ดีมากด้วย ต้องยอมรับนะครับว่า การทำสารคดีให้สนุก น่าติดตามนั้น ยากกกว่าการสร้างหนังมาก
เพราะมันต้องยึดอยู่กับความเป็นจริง ไม่มีสเปเชียลเอฟเฟกต์ ไม่มีบทสนทนาของตัวละคร แต่มอร์ริสเธอก็เอาอยู่ ถ้าคนดูจะต้องเห็นแต่หน้าของซีซิลกับเพอร์นิลลาที่มานั่งเล่าเรื่องของเธอตลอด 2 ชั่วโมง คงไม่มีใครดูจบเป็นแน่ จึงต้องมีภาพฟุตเทจสั้น ๆ แทรกมาประกอบการเล่าเรื่องแบบถี่ ๆ สลับกับคลิปสั้น ๆ และคลิปเสียงที่ไซมอนและ 2 สาวส่งให้กัน ทำให้หนังเดินหน้าไปอย่างราบรื่นไปจนถึงองก์สุดท้ายของหนัง กับการปรากฏตัวของบุคคลสำคัญที่มีผลอย่างมากต่อเรื่องราว ที่พาไปสู่บทลงเอยของ ไซมอน เลวีฟ และเปลี่ยนโทนเรื่องไปเป็นการสืบสวนไล่ล่าไซมอน รีวิว The Tinder Swindler
หนังจบในสูตรสำเร็จของหนังที่สร้างจากเรื่องจริง ด้วยภาพนิ่งของบุคคลจริง แล้วคำบรรยายถึงสถานะล่าสุดของบุคคลเหล่านี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่า เฮ้อ โลกเรานี้ช่างไร้ความยุติธรรมจริงจริ๊ง ไม่ว่าจะประเทศไหน ชาติไหน
เป็นสารคดีที่ให้ครบถ้วนทั้งสาระและบันเทิงครับ ดูเอาสนุกได้ แถมยังฝากข้อคิดไว้เตือนทุกคนด้วยว่า โลกเรานี้อยู่ยากนะ มีอันตรายแฝงอยู่ทุกที่ แม้กระทั่งในแอปหาคู่ ที่พึ่งพิงของคนใจเปลี่ยว ก็ยังน่ากลัวเสียจริง
เป็นสารคดีความยาวเกือบสองชั่วโมงที่เล่าเรื่องสนุกมาก ทุกอย่างถูกวางจังหวะการเล่าการบิ้วอารมณ์ได้เป็นอย่างดี เป็นสารคดีที่สร้างออกมาได้ดีมากเรื่องหนึ่งของเน็ตฟลิกซ์ที่คอสารคดีห้ามพลาดโดยเด็ดขาดครับ รีวิวหนัง